B2Y-2

79392c600b63773d5de5ae7cbd646c9c.png

14 ธ.ค. 2561

ไร่ข้าวโพดยามฝนตก ภาค ทุ่งโลกีย์ ตอนที่ ๑

“เฮ้ย!! กูว่าแค่นี้มันก็คงจะตายแล้วล่ะว่ะ”
ชายฉกรรจ์ที่ถือดาบในมือเอ่ยบอกกับเพื่อน หลังจากที่มันใช้ดาบในมือฟันฉับ!เข้ากลางหลังของชายร่างใหญ่จนล้มคว่ำ ขณะที่เพื่อนของมันถือไม้หน้าสามตามเข้าไปตีซ้ำที่ขมับจนร่างเคราะห์ร้ายหน้าหันเลือดสาดกระเซ็น
“กูก็ว่ายังงั้นแหล่ะ...” เจ้าอีกคนถือไม้หน้าสามในมือกำลังทุบซ้ำร่างตรงหน้าจนแน่นิ่งหยุดมือและปาดเหงื่อ
“แม่งเอ้ย! อึดฉิบหาย สองคนใช้ทั้งดาบทั้งไม้หน้าสามรุม กว่าจะเอาลงได้ เล่นเอาเหนื่อยเลย” เจ้าคมถือดาบยาวเลือดอาบคมบ่น
“ มึงอย่ามัวชวนคุย รีบๆเอาศพมันไปโยนทิ้งที่ไหนก็รีบไป เดี๋ยวใครมาเจอจะเข้าซังเต” เจ้าคนถือไม้หน้าสามบอก
จากนั้นทั้งสองก็ช่วยกันแบกร่างไร้สติที่มีเลือดอาบใบหน้าลงมาเป็นสายและแผ่นหลังเหวอะหวะมีเลือดชุ่มเสื้อยืดคอกลมที่ขาดวิ่น ทั้งสองช่วยกันยัดร่างนั้นใส่กระสอบก่อนที่อีกคนจะลงไปขับรถ  ส่วนอีกคนเฝ้าระวังอยู่ข้างหลัง   รถกระบะค่อยๆขับออกไปไปในช่วงดึกสงัด แต่เมื่อขับผ่านวัดที่ดูเหมือนว่าจะเป็นวัดร้างเก่าแก่เสียด้วย   อยู่ๆก็มีเสียงหมาหอนโหยหวนยาวเป็นทอดๆกันไปตามทางที่รถวิ่งผ่าน บรรยากาศช่างน่ากลัวจริงๆสำหรับคนขวัญอ่อน
“โธ่ เว้ย ไอ้พวกหมาเวร มึงจะหอนทำไมเนี่ย หยุดหอนสักทีสิว่ะ” ไอ้คนที่เฝ้าอยู่หลังกระบะบ่นกับตัวเองก่อนจะตัดสินใจเคาะข้างรถบอกเพื่อนด้วยความหวาดกลัว “เฮ้ยๆๆ หยุดก่อนๆ”
“อะไรของมึงอีกว่ะเนี่ย  จะได้รีบๆเอาศพมันไปทิ้ง มาบอกให้หยุดทำไม แถวนี้มันยิ่งวังเวงๆอยู่”เพื่อนในรถโผล่ศีรษะออกมาถามอย่างไม่สบอารมณ์ และไม่อยากจะจอดรถในสถานที่อย่างนี้
“กะ...กูว่า  กูจะขอไปอยู่ข้างหน้ากับมึงดีกว่า มันเพิ่งตายใหม่ๆ แล้วตายโหงด้วย มันเฮี้ยนนะเว้ย  กลัวฉิบหายเลย”
“ไอ้เวร! เรื่องมากจริงๆนะมึง ปิดท้ายดีๆ เดี๋ยวศพมันร่วงกลางทาง”
“เออๆ” เจ้าคนนั่งหลังเอ่ยบอกเสียงสั่น
“ตอนเป็นๆเสือกไม่กลัวมัน พอมันตายเสือกเพิ่งมากลัว แปลกจริงๆนะมึง”
“ตอนเป็นๆมันยังมีร่างกายนี่หว่า แต่ตายแล้วมันมีแต่วิญญาณ เกิดมันแค้นมึงกะกู ออกมาหักคอจะทำยังไงดีวะ”
“มึงนี่!  ดูดม้ามาใช่มั๊ย ถึงคิดบ้าๆอย่างนั้น”
“เออ...สองเม็ด...ฮี้ๆๆๆๆ”
“ฮึ่ม ไอ้เวร กูถามประชด แม่ง! เสือกดูดจริงๆ รีบๆลงมานั่งข้างหน้าเร็วๆ”
เมื่อเพื่อนร่วมงานจอดรถสนิท ชายคนนั้นก็รีบวิ่งลงไปนั่งข้างหน้ารถทันทีก่อนจะพากันรีบขับออกไปโดยเร็ว
รถกระบะขับออกจากจุดเกิดเหตุมาตามถนนนอกเมืองและเลี้ยวเข้าทางลูกรัง ขับออกมาไกลจนถึงไร่ข่าวโพดที่ขึ้นเรียงแถวเขียวขจีใกล้ออกฝักและเต็มไปด้วยป่าหญ้ารกซึ่งดูเป็นสถานที่ที่ไม่น่ามีผู้คนมาพลุกพล่านสักเท่าไร กระทั่งมาถึงจุดเปลี่ยวคาดว่าจะไม่มีใครผ่านไป มา ทั้งสองจอดรถและช่วยกันยกกระสอบป่านบรรจุร่างของชายคนนั้นโยนลงข้างทาง หลังจากนั้นก็รีบกลับขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่เหลียวหลังกลับมามอง



ภายใต้แสงสีส้มอ่อนของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะบอกลาขอบฟ้า อากาศค่อนข้างเยือกเย็น  กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปรของฤดูกาลเข้าสู่ฤดูฝน  เจี๊ยบ บัณฑิตสาวหมาดๆ ผู้มีใบหน้าสวยหวาน เรือนร่างอวบอิ่มสะดุดตา ผิวขาวอมชมพู ใบหน้ารูปไข่ คิ้วเข้ม ตาคมสีน้ำตาลดำ ผมยาวสลวยย้อมสีน้ำตาลเข้ม หน้าผากสวยโหนกนูนเด่นเห็นชัด ชนิดที่ผู้ชายทุกคนเห็นแล้วอดคิดไปถึง ความโหนกนูนของเนินเนื้อสาวไม่ได้ จมูกน้อยโด่งเป็นสันปลายเชิดงอนแสดงถึงความรั้นแก่นแก้ว ปากบางเฉียบ รูปร่างอ้อนแอ้น อกใหญ่ๆสล้างกลมกลึงตั้งชูชัน เอวคอด สะโพกผาย ก้นงอนโด่งยามย่างเดินย้ายยักยั่วยวนชวนกระสันยิ่งนัก ขณะนี้สาวสวยบ้านนากำลังนั่งรับลมยามเย็นที่พัดผ่านมาบนม้านั่งไม้ และก่อนหน้านี้ไม่นานฝนได้ตกลงมาสร้างความชุ่มฉ่ำสดชื่นกับใบไม้ใบหญ้า
สายตากลมโตทอดมองออกไปรอบๆตัวบ้านที่เป็นไร่ข้าวโพดสุดหูสุดตาในช่วงฤดูฝนที่ครึ้มไปด้วยเมฆสีดำ  โดยมีบ้านไม้สองชั้นมีใต้ถุนสูงเป็นฉากหลัง  รอบๆปลูกดอกไม้นานาชนิดล้วนแต่เป็นฝีมือของเธอทั้งนั้น  มีม้านั่งชมท้องฟ้ายามค่ำคืนออกไปไม่ห่างจากตัวบ้าน ส่วนทางซ้ายเป็นส่วนพืชผักต่างๆที่เก็บกินได้และสวนผลไม้อีกจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังคลองซึ่งมีดอกบัวสีชมพูชูช่อสลอนอวดความสวยงามกำลังหุบกลีบตูมเข้าในยามเย็น มองอีกฝั่งของบ้านทางด้านขวามีทุ่งข้าวโพดกำลังยืนต้นสูงสีเขียวขจีเป็นผืนยาวสุดสายตา 
“พี่ชาติๆ แย่แล้วพี่ มีใครมาตายในไร่เราก็ไม่รู้  รีบไปดูเร็วๆเถอะ”เสียงทั้งหอบทั้งเหนื่อยของนางจันทร์ มารดาของเจี๊ยบตะโกนลั่นหลังไปตรวจดูไร่ข้าวโพดแล้ววิ่งหน้าตื่นมาตะโกนหน้าเรือนใต้ถุนสูงบอกผัวปากคอสั่นด้วยความตกใจ
“อะไรนะ แล้วอยู่ตรงไหนวะ  ใครกันวะเสือกมาตายในไร่ของเรา ตายห่าแล้วจันทร์! มันอยู่ตรงไหน?!” ตาชาติบิดาของเจี๊ยบโผล่หน้าออกมาจากบ้านเมื่อได้ยินเสียงเมียที่กำลังกระหืดกระหอบบอกอยู่หน้าบ้าน
“ในไร่ข้าวโพดจ๊ะพี่ เลือดนี้เต็มตัวเลย” นางจันทร์บอกอย่างขวัญเสีย
“ชิปหายแล้วไง แกรีบพาข้าไปดูซิ เร็วๆ ” ตาชาติบอกเมียแล้วดึงปมโสร่งในแน่น เขาเดินเข้าไปคว้าปืนลูกซองแฝดออกมาจากในบ้าน และสั่งเมียให้นำไปยังที่เกิดเหตุ
 
นางจันทร์เดินนำตาชาติไปในไร่ เจี๊ยบซึ่งนั่งชมธรรมชาติได้ยินเรื่องจึงเดินตามไปด้วย เมื่อเดินเข้าไปไม่ไกลก็เห็นถุงกระสอบวางอยู่มีร่างใหญ่ๆอาบเลือดแห้งกรังนอนขดอยู่ข้างใน  ก่อนที่ตาชาติจะไปตรวจสอบชายนิรนามก็ขยับเขยื้อนน้อยๆแล้วร้องครางเสียงแหบๆ ออกมา ทำเอาทุกคนตกใจเล็กน้อย ตาชาติตั้งสติได้จึงเดินเข้าไปเอาปลายปืนเขี่ยๆร่างนั้น
“มันยังไม่ตาย...แต่เจ็บหนัก” ตาชาติบอกเมียและลูกสาว
“พี่ชาติจะเอาอย่างไงกับมันหล่ะ?” นางจันทร์เอ่ยถามผัวหน้าตาซีดเซียวเพราะความหวาดกลัวและตกใจ
“ช่วยมันก่อน ถึงจะไม่รู้ว่ามันเป็นคนดีหรือคนร้าย ” ตาชาติสรุป และหันไปบอกลูกสาว “นังเจี๊ยบ พอช่วยพามันไปบ้านเรา แล้วเอ็งรีบไปแจ้งผู้ใหญ่ด้วยนะ”
“จ๊ะ พ่อ” เจี๊ยบรับปากบิดา  ตากลมสวยมองดูคนที่อยู่ในกระสอบซ้ำยังมีเลือดอาบหน้า ดูเค้าหน้าแล้วหน้าตาคงจะดีไม่เบา เพราะแค่หุ่นก็ดูบึกบึนสมชายชาตรีถ้าตายก็น่าเสียดายจริงๆ
ตาชาติเอาปืนมาสะพายรีบบอกให้ทุกคนช่วยพากับแบกชายนิรนามไปที่บ้านของตน
“ระวังด้วยนะจ๊ะ  เขาดูท่าจะโดนทำร้ายมาหนัก ระวังๆด้วย  จะรอดไหมเนี่ย เบาๆนะเบาๆ”เจี๊ยบคอยช่วยประคองและสั่งบิดาตลอดทาง  ซึ่งตาชาติเอาชายนิรนามแบกขึ้นบ่าและพามาวางที่แคร่ไม่ไผ่หน้าบ้าน
“เฮ้อ..ตัวก็ใหญ่ หนักชิปหาย..”  ตาชาติวางร่างหนุ่มนิรนามแล้วยืนหอบหายใจ เพราะระยะทางค่อนข้างใกล้ และตัวแกก็อายุเลยครึ่งคนไปแล้ว เล่นเอาเหงื่ออาบใบหน้าต้องเอาผ้าขะม้ามาซับ
“นังเจี๊ยบ  ไปเอาน้ำอุ่นๆมาช่วยเช็ดหน้าเขาหน่อยเร็ว  เสร็จแล้วค่อยไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน” นางจันทร์สั่งลูกสาว จากนั้นก็ช่วยกันปฐมพยาบาลหนุ่มนิรนามตามมีตามเกิด
 “ น่ากลัวว่า ไอ้หนุ่ม แปลกหน้าคนนี้จะไปตีรันฟันแทงกับใครมา ถึงได้แผลฉกรรจ์ชนิดคลาดจุดตายมาหวุดหวิดอย่างนี้” นางจันทร์เอ่ยขึ้น
“แจ้งผู้ใหญ่แล้วให้เอาตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลของอำเภอ ...จากนั้นค่อยสอบถามมันทีหลังดีกว่า” ตาชาติออกความเห็น
“ก็คงต้องอย่างนั้น...”  เจี๊ยบเอ่ยขึ้นบ้าง
และเมื่อเจี๊ยบพิจารณาชายหนุ่มนิรนามหลังเช็ดตัวทำความสะอาด ชายคนนี้ร่างสูงใหญ่ ภายใต้โครงหน้าคมเข้มจัดว่าเป็นชายหนุ่มรูปงาม คะเนน่าจะอยู่ในวัยประมาณยี่สิบห้าปี ดวงตาสองชั้นปิดสนิท จมูกโด่งรับกับริมฝีปากหนาคล้ำ บึกบึน ผิวคล้ำ กร้านแดด บนลำตัวมีกล้ามเนื้อหนั่นแน่น กล้ามแขนเป็นลูกใหญ่โตดูแข็งแรงยิ่งนัก หน้าอกนูนขึ้นมาเป็นแผ่นกล้ามเนื้ออย่างชัดเจน หน้าท้องนั้นเป็นลอนด้วยแผ่นกล้ามเรียงกันอย่างงดงาม โดยเฉพาะส่วนเป้ากางเกงตุงใหญ่เร้าใจ เจี๊ยบใจกระตุกทุกครั้งเมื่อได้เหลียวมอง จนอดลอบเลียลิ้มฝีปากและกลืนน้ำลายไม่ได้ เพราะรู้สึกหวามหวิวกายเหลือเกิน...

 ต่อมาชายนิรนามถูกครอบครัวตาชาติพาส่งโรงพยาบาลด้วยรถกระบะดัสสันรุ่นช้างเหยียบซึ่งเก่าและแก่พอๆกับเจ้าของ  เจี๊ยบและนางจันทร์ขอติดตามมาด้วย เมื่อมาถึงโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่หมอพยาบาลก็นำร่างชายนิรนามเข้าทำการรักษา นางจันทร์ยืนทำหน้ากังวลขณะตาชาติไปทำบัตรคนป่วยให้ชายนิรนาม
“ถ้าไอ้หนุ่มนี่ตาย พวกเราจะเดือดร้อนไหมเนี่ย?” นางจันทร์เอ่ยถามลูกสาวอย่างกังวล เพราะอาการเจ้าหนุ่มนิรนามดูจะหนักหนาสาหัสเอาการ
“ไม่ต้องกลัวหรอกนะแม่ รอฟังผลตรวจหมอแล้วจะรีบแจ้งตำรวจ  ยังไงๆหนูว่ามันก็ไม่น่าเกี่ยวอะไรกับบ้านเราหรอก น่าจะเป็นเหตุบังเอิญมากกว่า อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้เลยนะ” เจี๊ยบพูดปลอบใจมารดา  พอดีตาชาติทำบัตรผู้ป่วยเสร็จและบอกทุกคนไม่ต้องห่วงกังวลอะไรให้มากความ กระทั่งต่อมาอีกไม่นาน พยาบาลเดินออกมาหาพวกเขาที่นั่งรออยู่ด้านหน้าห้องฉุกเฉิน
“เชิญญาติคนเจ็บพบคุณหมอด้วยค่ะ” พยาบาลเอ่ยบอก
“เอ่อ คือ....” ตาชาติอึ้งๆไป  ก่อนจะพยักหน้าให้ลูกสาวและเมียเดินตามพยาบาลไป
ครอบครัวตาชาติเดินตามพยาบาลเข้าไป  ชายนิรนามเมื่อครู่ได้ทำแผลและเช็ดตัวจนสะอาดในชุดของโรงพยาบาล เจี๊ยบมองใบหน้าที่นอนแน่นิ่งอยู่ให้ชัดขึ้น  ดูทั้งผิวและรูปร่าง อีกทั้งแม้จะอยู่ในสภาพหลับสนิท ใบหน้านั้นก็ยังดูโดดเด่น  หล่อเหลาคมเข้มระดับนายแบบหรือพระเอกละครไปในทางนั้น ทำเอาหญิงสาวรู้สึกพอใจนิดๆ
“คุณเป็นญาติใช่ไหมครับ”เสียงของหมอเอ่ยถามตาชาติ ทำเอาเจี๊ยบเรียกสติกลับมา
“เอ่อ คือ ว่า...” ตาชาติกำลังจะอ้าปากอธิบาย แต่หมอชิงเอ่ยต่อว่า
“คนไข้ได้รับแรงกระแทกที่ศีรษะเย็บสามสิบเข็มนะครับ  ส่วนอื่นของร่างกายไม่มีอะไรผิดปกติและคนไข้หมดสติไปนานหรือเปล่าครับ เพราะเสียเลือดไปค่อนข้างเยอะ”คุณหมอบอกอาการให้ทุกคนฟัง
“คือ เราพบเขาใกล้กับบ้านนะครับ อยู่ในกระสอบเหมือนมีคนเอามาทิ้งไว้ในไร่ข้าวโพด คิดว่าพามาส่งหมอแล้วจะไปแจ้งความ” ตาชาติตอบหมอไปตามความจริง
“อย่างนั้นหมอว่ารีบแจ้งความเถอะครับ เพราะอาจจะเป็นการฆาตกรรมอำพรางก็ได้ ส่วนอาการของคนไข้หมอจะดูแลเป็นอย่างดี” หมอบอกก่อนจะยิ้มให้แล้วเดินออกไป
ครอบครัวตาชาติมองหน้ากันท่าทางเคร่งเครียด
“ผู้ใหญ่ก็ไม่อยู่ แล้วเราจะเอายังไงกันดี?” นางจันทร์เอ่ยถามผัว
“หมอบอกให้เราไปแจ้งความกัน ฉันว่าไปแจ้งความกันก่อนดีไหม?” ตาชาติเอ่ยขึ้น
 “ฉันว่าอย่าเพิ่งเลยนะพ่อ รอดูอาการของเขาก่อน เราไม่รู้ว่าเขาโดนทำร้ายมาเรื่องอะไร ถ้าเป็นการขัดผลประโยชน์หรือฆาตกรรมอำพราง  ถ้าเกิดว่าพวกนั้นรู้ว่าเขายังไม่ตายล่ะ  อาจจะมาตามฆ่าเขาก็ได้นะ” เจี๊ยบเอ่ยขึ้น
“เอ็งดูละครเยอะไปรึป่าวเนี่ย  ไม่หรอกมั้ง  ไปแจ้งความล่ะดีแล้ว”นางจันทร์ค้านขึ้นมา
“แม่เชื่อฉันเถอะนะ ให้เขาตื่นก่อน แล้วสอบถามให้แน่ใจ แล้วค่อยพากันไปแจ้งความ” เจี๊ยบยังยืนยัน
ตาชาติจึงสรุปว่า “เอาอย่างที่นังเจี๊ยบมันบอก เราเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นคนดีหรือคนร้าย รอมันฟื้นแล้วสอบถามก่อนว่ามันถูกทำร้ายมาปางตายเนี๋ย เพราะเรื่องอะไร”
ตาชาติมายืนข้างเตียงมองอย่างพินิจพิเคราะห์ “หน้าตามันก็ดีนะ และหน้าตาซื่อๆอย่างนี้ไปทำอะไรมานะ ถึงได้ถูกเขาตีหัวแบะ ฟันหลังเสียเหวอะเอาได้  หน้าตาก็ดีจัดว่าเป็นพวกลูกผู้ดีมีเงินยังได้ หรือจะเป็นพวกหลอกต้มตุ๋นผู้หญิงหรือเปล่า เจ้าชู้หนักเขาเลยตีหัวฟันซะยับแล้วเอามาทิ้งมันซะเลย   หรือเป็นพวกนักธุรกิจแล้วขัดผลประโยชน์กัน  หรือว่าจะโดนอุ้มมาฆ่าทิ้งเพื่อแย่งชิงสมบัติหรือเปล่านะ”
ตาชาติสันนิษฐานไปต่างๆนานา ตามแต่ที่ตนเองจะคิดออก
“โอ๊ะ!”ขณะที่ตาชาติกำลังคาดเดาที่มาที่ไปของเจ้าหนุ่ม ร่างที่นอนแน่นิ่งมานานค่อยๆขยับตัว
“อย่าเพิ่งขยับนะจ๊ะ  ใจเย็นๆ อย่าตกใจ นายปลอดภัยแล้ว”เจี๊ยบรีบปรามเมื่อชายนิรนามคนนั้นทำท่าจะจับศีรษะ
“.....”เขาไม่พูดอะไร ปรือตาโตคมมองหน้าครอบครัวตาชาติทีละคนอย่างงุนงง
“คือว่า...พวกฉันเป็นคนช่วยนายมาโรงพยาบาล นายโดนตีหัวแตกฟันหลัง เลือดอาบใส่กระสอบมาโยนทิ้งไว้แถวๆบ้านฉัน  นายโดนทำร้ายมาใช่ไหม” เจี๊ยบเล่าให้ฟังและถามกลับทันที ด้วยอยากรู้ว่าชายหน้าหล่อ ผิวเข้ม กล้ามใหญ่มีหัวนอนปลายตีนมาจากไหน “เอ่อ..นายพอจะจำอะไรได้บ้างไหม?”
“หื่อ....” เขาทำหน้าฉงน ก่อนใบหน้าหล่อๆคมเข้มจะแสดงความเจ็บปวดและกุมศีรษะเพราะคิดทบทวนแล้วเกิดปวดหัวจี้ดขึ้นมาทันทีทันใด
“ฉันต้องเรียกพยาบาลมาดูนายเดี๋ยวนี้ ใช่ๆ”พูดจบเจี๊ยบก็กดเรียกพยาบาลมาทันทีหลังจากเห็นเจ้าหนุ่มมีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะกำเริบขึ้นมา
ไม่นานทั้งพยาบาลและหมอก็เดินเข้ามาในห้อง  หมอตรวจดูอาการ  ครอบครัวตาชาติถอยออกมามองดูอย่างห่างๆ เจี๊ยบเองมีสายตาเป็นกังวล  โดยไม่รู้เลยว่าสายตาของผู้ชายที่เธอช่วยชีวิตกำลังจ้องมองเธออย่างไม่คลาดสายตา เรื่องที่เธอบอกเขามาทั้งหมด  เขารู้ดีว่าใครเป็นคนทำร้ายเขา  และป่านนี้พวกนั้นคงคิดว่าเขาตายไปแล้วและไม่คิดจะตามหาเขาแน่  เขาจะกลับตอนนี้ไม่ได้  และอีกอย่างผู้หญิงที่ช่วยชีวิตเขาคนนี้ก็ช่างถูกชะตากับเขาเหลือเกิน  เขาจะทำยังไงดีล่ะ   ใช่เขาต้องอยู่กับเธอไปก่อนแล้วค่อยย้อนกลับไปแก้แค้นคนพวกนั้นคืนอย่างสาสมกับที่กล้าทำกับเขา
“คนไข้ปกติดีนะครับ  ลุงแจ้งความหรือยังครับ”คุณหมอหันมาถามตาชาติ
“ยังค่ะ  หนูคิดว่าเขาฟื้นแล้วจะไปแจ้งความเลย”เจี๊ยบชิงตอบแทน
“เอ่อ ผะ.. ผม...  ผมเป็นใครหรือครับ”อยู่ๆเสียงของคนไข้ที่หมอบอกว่าปกติดีก็พูดแทรกขึ้น
“อะไรกัน ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครแล้วฉันจะไปแจ้งความยังไง” เจี๊ยบหันไปถามชายนิรนาม
“โอ้ย!!  ผมปวดหัวครับหมอ  ปวดมากด้วย  ผมจำอะไรไม่ได้เลยครับนอกจาก  มีคนทำร้ายผมและความรู้สึกของผมคือ ผมไม่อยากกลับที่ที่ผมมาเลยครับ  พวกมันทำร้ายผมครับ  โอ้ย !!” ทุกคนที่ได้ยินนิ่งพูดไม่ออก
หมอเจ้าของไข้ตรองชั่วครู่ก่อนจะหันมาหาและบอกครอบครัวตาชาติว่า “อื่อ...ผมว่าลุงอย่าเพิ่งรีบไปแจ้งความเลยครับ ส่วนมากคนไข้ที่โดนกระทบศีรษะแรงมักจะมีอาการความจำเสื่อม  และถ้าเป็นอย่างที่คนไข้พูดว่าจำตัวเองไม่ได้ หมอก็อยากให้คุณช่วยดูแลเขาจนกกว่าจะหายดี แล้วค่อยหาญาติของเขาดีไหมครับ”
“แต่ คือ... เอ่อ ...” เจี๊ยบตรองชั่วครู่ก็เอ่ยต่อว่า “ถ้ายังงั้นก็ได้ค่ะ  บ้านหนูก็มีคนอยู่กันเยอะน่าจะช่วยกันดูแลเขาไปก่อนได้” เจี๊ยบชิงรับปากหมอแทนทุกคน หมอพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินออกไป
เจี๊ยบมองหน้าเขาอีกครั้งและโดนเขาจ้องกลับและส่งยิ้มให้เธอ ทำให้สาวมั่นอย่างเจี๊ยบถึงกับหน้าร้อนผ่าว
“นายจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆหรอ แล้วฉันจะเรียกนายว่าอะไรดีล่ะ”เจี๊ยบเอ่ยถามขึ้น
“จำได้แต่ว่า ผมชื่อไวไฟ นอกนั้นจำอะไรไม่ได้จริงๆครับ” หนุ่มนิรนามเอ่ยตอบมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
 “ฉันชื่อเจี๊ยบนะ แล้วนี่พ่อฉันชื่อชาติ แม่ฉันชื่อจันทร์” เจี๊ยบแนะนำตัวและครอบครัว
เจ้าหนุ่มที่บอกว่าตัวเองชื่อไวไฟยกมือไหว้ทุกคนอย่างซาบซึ้ง “ขอบพระคุณที่ช่วยผมไว้นะครับ”
“ไม่เป็นไร เมื่อช่วยแล้ว พวกเราก็จะช่วยให้ถึงที่สุด ช่วยเท่าที่จะทำได้” ตาชาติเอ่ยบอก
 “นายกินข้าวต้มเองได้นะ” เจี๊ยบเอ่ยถาม เขาพยักหน้าและยิ้มให้เธออีกครั้ง “ ก็คงกินเองได้อยู่หรอกนะ คงไม่ลืมวิธีการกินไปแล้วหรอกนะ  สมองเสื่อมไม่ได้ปัญญาอ่อนนี่ ใช่มั๊ย?...”
เจ้าหนุ่มไวไฟรับชามข้าวต้มมากินจนเสร็จเรียบร้อย กินยาแล้วก็นอน ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาว่า
“คุณเจี๊ยบเป็นคนใจดีมากนะ ขอบคุณมากนะครับ”แล้วยิ้มให้เธออีกครั้ง ทำเอาเจี๊ยบยิ้มตอบอย่างปลื้มใจ
หนุ่มแปลกหน้านอนซมเป็นไข้หนักอยู่เกือบอาทิตย์จึงอาการดีขึ้น แผลที่หัวและหลังก็เริ่มสมานกันดี ครอบครัวตาชาติช่วยกันดูแลรักษาเจ้าหนุ่มคนนั้นจนกลับมาเป็นปรกติดีทุกอย่าง และพากลับมาพักฟื้นที่ไร่ข้าวโพดซึ่งกำลังอยู่ในช่วงฤดูฝนพอดี ซึ่งพร้อมที่จะไถหว่านได้อีกครั้ง

ยามย่างเข้าสู่  ..เขตฤดู ..ฝนพรำ  ตกกระหน่ำเสียจนพร่างพราว...                                                           
ฝน...ก็พรม..ซ้ำลมก็หนาว..ยิ่ง..คิดสาวเปลี่ยวใจ..ยาม..เมื่อสายฝนพรำลงมา...ท้องฟ้า..พลันมัวและมืดไป.
เสียงบทเพลงฝนหนาวสาวครวญ..ของราชินีลูกทุ่ง ผ่องศรี วรนุช  แว่วมาจากวิทยุทรานซิสเตอร์ของตาชาติที่แขวนไว้บนเสาใต้ถุนเรือนไม้ซึ่งด้านบนเป็นที่พักอาศัย ส่วนด้านล่างปล่อยโล่งเป็นที่เก็บอุปกรณ์การเกษตร  บทเพลงลูกทุ่งฟังแล้วช่างไพเราะเพราะจับใจ และเข้ากับกับบรรยากาศท้องฟ้ามืดครึ้มยามย่างเข้าสู่ช่วงต้นฤดูฝนยิ่งนัก
ฝนตกพรำๆมาหลายวันแล้ว  แต่วันนี้ยังไม่ตกแค่ครึ้มๆ ตาชาติคิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะเริ่มลงเมล็ดข้าวโพดเสียที  ดินที่เตรียมไถเตรียมคราดไว้ก็สมควรแก่เวลาของการเพาะปลูกอย่างเป็นทางการไม่แฉะจนเกินไป   อุปกรณ์ปลูกข้าวโพดก็ไม่มีอะไรมาก แค่สองมือกับจอบหนึ่งอัน...  วิธีปลูกข้าวโพดก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก  แค่ใช้จอบขุดดินให้เป็นหลุมตื้นๆ ขุดเป็นหน้าเป็นหน้าไป  แถวละ ห้า หกหลุม  คนขุดก็ขุดไป  คนหยอดเมล็ดข้าวโพดก็เดินหยอดตามหลังไป  หลุมละ ๓-๕ เมล็ด เอาเท้ากลบดิน แค่นี้ก็เรียบร้อย รอเมล็ดแตกหน่อแตกรากขึ้นมาเป็นต้นเท่านั้น
เจ้าหนุ่มไวไฟเป็นคนมีพรสวรรค์ทางด้านการปลูกพืช เขาเป็นกำลังหลักคอยช่วยเหลือในการดูแลใส่ปุ๋ย ดายหญ้าให้กับต้นข้าวโพดที่ปลูกไว้รายรอบบ้าน และยังเป็นคนคอยหว่านปุ๋ยให้กับต้นข้าวโพดที่ขึ้นสล้างอยู่ทั่วไร่ นับว่าเป็นการเบาแรงตาชาติไปมากโข เมื่อมีเจ้าหนุ่มไวไฟมาช่วยเหลืออีกแรง
เจ้าหนุ่มไวไฟเป็นคนขยัน พื้นที่ ว่างๆในไร่มีหลายที่  พอจะปลูกพริก บ้าง มะเขือบ้าง ฟักแฟงแตงไทย ถั่วปี  ปลูกอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องดูแลมาก  ปล่อยให้คลานไปตามธรรมชาติ  ถึงเวลาออกดอกออกผลแล้วค่อยไปเก็บมากิน เขาจับจอบเดินดุ่มๆเข้าไปทำหมด   ไม่ว่าจะมีพื้นที่ว่างตรงไหน  ก็จะขุด..ขุด..ขุด..ด้วยสองมือกับจอบคู่ใจ จนนางจันทร์ถึงกับเอ่ยปากชมบ่อยๆ นอกจากจะหน้าตาดี รูปร่างสูงใหญ่บึกบึนแข็งแรง กล้ามเป็นมัดๆ ยังสู้การสู้งานทุกอย่างไม่เคยเกี่ยง
หลายเดือนต่อมา ....เจ้าหนุ่มไวไฟไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะนึกอะไรออกหรือคิดจะเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่ไหน มันยังคงปักหลักอาศัยครอบครัวตาชาติกินอยู่หลับนอนนานหลายเดือน แต่ด้วยความขยันขันแข็งช่วยเหลืองานการทุกอย่างในบ้านไม่เกียจคร้าน ดังนั้นตาชาติจึงสรุปเอาว่าให้เจ้าไวไฟอยู่กับครอบครัวเขาไปก่อน นึกอะไรออกค่อยขยับขยายทีหลัง ครั้งแรกตาชาติจะให้เจ้าไวไฟนอนที่เพิงหลังเรือน แต่เจ้าไวไฟปฏิเสธและเลือกจะหลับนอนที่กระท่อมปลายนาใกล้ลำคลองท้ายไร่ข้าวโพด ที่ซึ่งพบเขานอนสลบอยู่นั่นเอง ตาชาติและครอบครัวก็ปล่อยให้เขาพักอาศัยได้ตามความต้องการ
ระหว่างพักอาศัยและทำการทำงานด้วยกันนั้น เจี๊ยบมักลอบชะม้ายตามองเจ้าหนุ่มไวไฟด้วยความห่วงใยที่เริ่มก่อตัวขึ้นลึกๆ ในใจ และหมั่นทำอาหารใส่ปิ่นโตไปให้เจ้าหนุ่มไวไฟแทบทุกมื้อ พร้อมกันร่วมวงกินอาหารด้วยกันทุกวัน จนกระทั่งทั้งสองเริ่มใกล้ชิดและสนิทสนม ขณะที่ตาชาติเริ่มมองทั้งสองหนุ่มสาวด้วยความไม่ไว้วางใจ ซึ่งเจ้าไวไฟเองก็พอจะรู้ความหมายในสายตานั้น และเขาเองคิดเพียงว่าตาชาติคงจะหวงลูกสาวตามประสาพ่อคนทั่วๆไป
แต่ทว่า...เขากลับคิดผิดถนัด เพราะเรื่องราวของเจี๊ยบและตาชาตินั้น มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเกินกว่าพ่อลูกทั่วๆไป  และเมื่อเขาได้ล่วงรู้ถึงกลับตกตะลึงเพราะคาดไม่ถึง...
เมื่อเข้าหน้าฝนจริงๆแล้ว  ฝนตกพรำๆแทบทุกคืน  ส่งผลค่อนข้างดีกับไร่ข้าวโพดที่ลงไว้  รวมทั้งพืชพรรณธัญญาหารต่างๆที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติก็ผลิดอกออกผล แตกกอ แตกหน่อ ป่าแถบนี้ดินดี ดินดำน้ำชุ่ม  กอไผ่แตกหน่อเต็มไปหมด สับกันจนเก็บมากินไม่หวาดไม่ไหว  ตัดได้เต็มตะกร้าแล้วก็เทใส่ถุงปุ๋ยเต็มถุงแล้วก็มัดปาก  เจ้าไวไฟก็แบกกลับบ้านไปฝากตาชาติและครอบครัวและเอาไปขายตลาด ระหว่างทางเห็นหน่อหวายก็หักเอาไปด้วย  หน่อหวายก็สามารถแกงกินได้   รสชาติคล้ายแกงหน่อไม้   ที่ขาดไม่ได้ก็คือ  ใบย่านาง...ถ้าจะแกงหน่อไม้  หรือ แกงหน่อหวายจะต้องคั้นใบย่านางจนได้น้ำสีเขียวข้น เป็นส่วนผสมสำคัญขาดไม่ได้จริงๆ…
ขณะนั้นไร่ข้าวโพดกำลังทยอยโผล่พ้นดิน   ตาชาติยืนเอามือไพล่หลังมองดูผืนดินเบื้องหน้าด้วยใบหน้าที่อิ่มเอิบ  น้ำฝนบนฟ้า นำพาซึ่งความหวัง  รออีกไม่นานข้าวโพดก็จะเติบโตออกดอกออกฝัก  รายได้จากผลผลิตที่ได้คงจะมากพอ ที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวตาชาติ และคงจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น     ข้าวโพดแปลงแรกขึ้นสม่ำเสมอกำลังยืนต้นสีเขียวสดงดงาม    มองออกไปมีแต่สีเขียวสุดลูกหูลูกตาน่าชื่นใจ


วันนั้นฝนตกหนักตั้งแต่ตอนบ่าย เจี๊ยบบัณฑิตสาวชาวไร่คนสวยจัดอาหารใส่ปิ่นโต แล้วรีบก้าวลงจากบ้าน ตั้งใจจะเอาไปให้เจ้าหนุ่มไวไฟที่กระท่อมปลายนาดังกิจวัตร ทว่าวันนี้ฝนตกหนักมากมองออกไปเห็นฟ้าขาวโพลน รอบๆบ้านน้ำไหลเซาะตามร่องน้ำไปลงคลองราวลำธารสายเล็กๆ และที่ใต้ถุนบ้าน  นางจันทร์มารดาของเจี๊ยบก็กำลังก็กำลังเลือกเมล็ดข้าวโพดเพื่อเตรียมไปปลูกเพราะเพิ่มเติมกับพื้นที่ว่างซึ่งเตรียมดินไว้แล้ว ขณะตาชาติผู้เป็นบิดาเองก็เอาแหมาซ่อมแซมเตรียมไปหาปลาที่มากับน้ำ ทั้งสองต่างง่วนอยู่กับการทำงานที่ใต้ถุนบ้านที่เป็นบ้านชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง
 บัณฑิตสาวใบหน้าหวานล้อมด้วยเรือนผมสีน้ำตาลยาวประบ่า พาเรือนร่างระหงในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นคุ้นตาโชว์ความขาวเนียนของต้นขาผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี ในมือข้างหนึ่งหิ้วปิ่นโต ซึ่งเต้านมอวบหยุ่นที่ถูกเสื้อยืดตัวเล็กของเธอรัดเสียตึงราวกับห่อแหนม เสื้อในสีชมพูสดมองเห็นได้รางๆ ผ่านเนื้อเผ้าที่ค่อนข้างบาง สองเต้าตูมของสาวสวย เด้งกระเพื่อมตามจังหวะเก้าเท้าลงบันได ไม่พ้นสายตาของตาชาติผู้เป็นบิดาซึ่งคอยจับจ้องอยู่โดยตลอด สีหน้าหวานออกแววผิดหวังเมื่อเห็นสายฝนตกหนัก
ร่างระหงขาวผ่องของเจี๊ยบนั่งลงที่ตีนบันไดพร้อมบ่นอย่างเซ็งๆ “เฮ้อ...ตกได้ตกดีจริงๆนะ ตกทั้งวัน”
ตาชาติได้ยินเสียงบ่นของลูกสาวก็หยุดมือเงยหน้าขึ้นมาจากการซ่อมแห “ฝนตกแหล่ะดี เป็นเกษตรกรชาวนาชาวไร่ก็หวังพึ่งฟ้าพึ่งฝนนี่แหล่ะ ตอนเอ็งไปเรียนปีแรกๆมันแล้งติดๆจนข้าต้องกู้เงินเสี่ยนีโอส่งไปให้เอ็งเรียนตั้งหลายหมื่น แต่มา ๒ ปีหลังนี่ ฝนฟ้ามาตรงเวลาค่อยลืมตาอ้าปากได้หน่อย  น้ำท่าดีปีนี้ปลาคงชุม เราคงไม่อดเหมือนปีก่อนๆแน่”
เจี๊ยบลุกขึ้นแล้วเดินมานั่งยองๆช่วยแม่คัดเมล็ดข้าวโพดแก้เซ็งพลางเอ่ยว่า  “หนูก็หวังว่าน้ำท่ามันจะดีอย่างพ่อบอก แต่ว่าอย่าดีเสียจนน้ำท่วมหล่ะ เดี๋ยวจะไม่มีเงินใช้หนี้ไอ้เสี่ยนีโอมัน ตั้งแต่หนูกลับมาอยู่บ้าน ขยันมาบ้านเราจริงๆ นะตาเสี่ยคนนี้ ขนาดสั่งปุ๋ยถุงเดียวยังอุตส่าห์ขับรถโฟร์วีลล์ล้อโตมาส่งเอง ใส่ทองเส้นเท่าโซ่ไม่กลัวโดนหมกไร่ข้าวโพดเลย”
เจี๊ยบเอ่ยคล้ายๆบ่นถึงเสี่ยนีโอ เจ้าร้านขายปุ๋ยเคมีและยาปราบศัตรูพืชในอำเภอ ซึ่งมักแวะเวียนมาหาเสมอๆ ซึ่งเธอเองก็รู้ว่าเจ้าเสี่ยคนนี้ต้องตาต้องใจในเรือนร่างของตนเองและหวังจะได้ไปนอนกกกอดข้างกาย เจี๊ยบเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไร แม้ว่าเสี่ยคนนี้จะอายุ ๔๐ กว่าๆแล้ว แถมยังอ้วนลงพุง หัวเถิก เพราะกิจการต่างๆของเสี่ยนีโอมีมากมายหลายอย่าง ถ้าได้มาเป็นผัวคงจะช่วยยกระดับฐานะของครอบครัวตนเองได้ พ่อและแม่คงจะไม่ลำบากอย่างทุกวันนี้ เรื่องจับทำผัวมันไม่ยากหรอก แต่ยากตรงที่ไม่รู้ว่าเจ้าเสี่ยนีโอมันจะจริงจังกับเธอขนาดไหน เกรงว่าได้ตัวเองไปแล้วจะเป็นแค่เมียเก็บชั่วคราว เบื่อก็ทิ้งๆขว้างๆ อย่างรายอื่นๆ
ระหว่างที่เจี๊ยบนั่งช่วยแม่เลือกเมล็ดข้าวโพด เธอนั่งยองๆมันชวนมองเสียนี่กระไร ตาชาติเองตั้งแต่ลูกสาวเดินลงบันไดมาก็ไม่มีสมาธิซ่อมแห เพราะละอองฝน มันทำให้เสื้อยืดตัวเล็กของเธอเปียกซึมเต้านมอวบโตของเธอจึงถูกผ้ายืดเปียกๆนั้นนาบแนบ กางเกงผ้ายืดขาสั้นสีน้ำเงินก็ไม่อาจปกปิดความอวบนูนใหญ่ของโคกเนื้อกลางหว่างขาเธอได้ ทำเอาตาชาติกลืนน้ำลายจับจ้องแต่มองเต้าอวบๆโคก ใหญ่ๆ ที่ดันกางเกงขาสั้นนูนเด่นเห็นชัดเจนไม่วางตา
ภาพอันยั่วยวนของลูกสาวทำเอาตาชาติเกิดอารมณ์ ท่อนเนื้อแข็งโด่ขึ้นมาจนอดรนทนนั่งนิ่งๆต่อไปไม่ไหว
ตาชาติหยุดซ่อมแหขยับขึ้นยืน “อื่อ..วันนี้ฝนตกหนัก ข้าจะออกไปหาปลาหาหอยซะหน่อย”
ตาชาติพูดยิ้มๆเป็นนัยมองหน้าลูกสาวคนสวยแล้วขยับผ้าขาวม้าที่นุ่งอยู่ให้เข้าที่
“หาปลาแล้วทำไมต้องหาหอยด้วยละพ่อ?” เจี๊ยบเอ่ยถามบิดาแล้วสบตาหยาดเยิ้ม ก็เข้าใจความนัยทันทีว่าตาชาติมีอารมณ์และคงจะชวนตนเองไปหาที่ระบาย  “หน้านี้คงหาหอยยาก น่าจะถูกปลากินหมด”
“มีสิวะ เดี๋ยวข้าจะจับกินให้หายอยากเลย ฮ่าๆๆ”
ตาชาติพูดแล้วหัวเราะ แกจับจ้องมองซอกขาขาวๆที่กางเกงในสีชมพูแลบออกมายามที่ลูกสาวซึ่งนั่งยองๆขยับตัวไปมา จินตนาการการว่าหีอูมๆของลุกสาวข้างในมันคงอ้าๆหุบๆตามจังหวะการถ่างขาเข้าๆออกๆของเธอ ตาชาติมองจนดุ้นแข็งโด่อยู่ในผ้าขาวม้าอย่างไม่รู้ตัว
อาการนั้นทำเอาเจี๊ยบที่มองไปขยิบตาเตือนตาชาติที่ยืนตาเยิ้มให้รู้ตัว พอตาชาติก้มมองดุ้นตนเองที่โด่อยู่ใต้ผ้าขาวม้าก็รีบนั่งลงเพราะกลัวนางจันทร์เมียตนเองจะจับพิรุธได้ว่ามีอะไรกับลูกสาวพูนดูจนดุ้นในผ้าขาวม้าแข็งลอดออกมาอย่างไม่รู้ตัว แต่ตาชาติก็ยังคิดแผนจะพาลูกสาวไปจัดการข้างนอกและมองเห็นปิ่นโตวางอยู่
“เอ็งจะเอาข้าวไปให้เจ้าไวไฟหรอ?” ตาชาติเอ่ยถามลูกสาว
“จ๊ะ” เจี๊ยบบอกสั้นๆ และยังคงง่วนช่วยมารดาเลือกเมล็ดข้าวโพด
“ถ้าอย่างงั้นก็รีบๆเอาไปให้มันเถอะ จะมืดค่ำอยู่แล้ว ป่านนี้มันคงหิวน่าดู”
ตาชาติเอ่ยเร่งเพราะต้องการให้เจี๊ยบออกไปข้างนอกเร็วๆแล้วแกจะได้ตามไปจัดระหว่างทาง อันที่จริงไม่ได้ห่วงปากท้องเจ้าหนุ่มพเนจรนามว่าไวไฟสักเท่าไหร่ และออกจะไม่พอใจด้วยซ้ำที่ลูกสาวชอบเล่นหูเล่นตาพูดจาสองแง่สองง่ามด้วยเสมอๆ ต่อหน้ายังขนาดนี้ ลับหลังไม่รู้จะขนาดไหน แกรู้นิสัยลูกสาวดีว่าร่านไม่น้อย ไม่เช่นนั้นคงไม่จับแกที่เป็นพ่อแท้ๆทำผัวหรอก
“ฝนยังตกหนักอยู่นะพี่ชาติ เดินตากฝนไปเดี๋ยวมันจะไม่สบายเป็นหวัดเอานา...” นางจันทร์เอ่ยขัดขึ้น
“ฝนตกร่มก็มีใช้นี่ กางร่มไปก็ได้ รีบๆเอาข้าวไปให้มันเถอะ เจ้าไวไฟมันก็ช่วยงานเรามาไม่เคยเกี่ยงงอน ตากแดดตากฝนมันก็ไม่เคยบ่น อย่าให้มันมาว่าได้ ฝนตกแค่นี้กางร่มไปก็ได้ แล้วไปไวๆกลับมาไวๆนะ อย่าไปนั่งคุยกับมันมืดๆค่ำๆ ใครรู้เข้ามันจะไม่ดี รู้เปล่านังเจี๊ยบ” ตาชาติกำชับด้วยคำพูดและกิริยาของบิดาที่แสนดีปกปิดความคิดบัดสีของตน
 เจี๊ยบละมือจากการช่วยมารดาและเดินไปหิ้วปิ่นโตพลางสบตาบิดายิ้มๆราวล่วงรู้ว่าแกคิดอะไร จากนั้นก็เดินไปหยิบร่มมากางเดินบิดก้นออกจากใต้ถุนบ้านไป ตาชาติมองตามแล้วลอบยิ้มอย่างพอใจ โอกาสจะได้ลิ้มรสหอยอูมๆของลูกสาวอีกครั้งมาถึงแล้ว พอเจี๊ยบเดินลับไปในแนวต้นข้าวโพด แกก็หยิบแหมาฟาดบ่าทำท่าจะเดินออกจากใต้ถุนบ้านไปบ้าง
“พี่ชาติจะไปไหน ฝนตกหนักอย่างนี้ อย่าบอกนะว่าจะไปทอดแห” นางจันทร์เอ่ยถามขึ้น
“ฝนกำลังตกสิดี ปลามันมาเล่นน้ำใหม่ วันนี้แกเตรียมแกงส้มปลาช่อนเลย” ตาชาติบอกแล้วแบกแหเดินฝ่าสายฝนออกไปอย่างเร่งรีบเพราะกลัวจะไม่ทันลูกสาวที่ล่วงหน้าไปก่อน
ฝนยังคงตกลงมาอย่างหนัก สายฟ้าที่สว่างวาบทำให้มองเห็นสายฝนที่กระหน่ำอย่างหนักจนขาวทึบ ฝนตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตาจนน้ำท่วมนองไปทั้งท้องทุ่ง เจี๊ยบเดินหิ้วปิ่นโตเดินไปตามร่องสวนที่ค่อนข้างมืดเพราะเป็นช่วงเข้าพลบ ทางที่เปียกและลื่น เธอจึงถลาลื่นจวนเจียนจะล้มหลายหน กระทั่งเดินมาถึงกระท่อมเก็บปุ๋ยกลางไร่จึงเข้าไปพักหลบฝนเพราะเปียกปอนไปทั้งตัวแล้ว
ข้างฝ่ายตาชาติเดินจ้ำเท้าตามลูกสาวมาก็เห็นหลบไปอยู่ในกระท่อมเก็บปุ๋ย แกยิ้มอย่างพอใจพลางนึกถึงวันที่ได้เย็ดลูกสาวครั้งแรกก็เป็นสถานที่แห่นี้ และในบรรยากาศฝนตกหนักๆอย่างนี้เหมือนกัน
“ว้าย! พ่อ...” เจี๊ยบตกใจเพราะอยู่ๆตาชาติแอบเข้ามากอดข้างหลัง
“อื้อ..นังเจี๊ยบเอ้ย..ข้าตากฝนตามเอ็งมาหนาวจริงๆ” ตาชาติพูดอ้อน สองมือกอดบ้างขยำบ้างไปตามร่างอวบของลูกสาว พลางสูดดมแก้มนวลแดงระเรื่อด้วยเลือดฝาดสาวไม่หยุด
“ใครใช้ให้ตามหนูมาหล่ะ อยากตามมาเองนี่” เจี๊ยบแกล้งพูดไปตามจริต
ข้างฝ่ายตาชาติกำลังเงี่ยนง่ามฟอนฟัดร่างอวบอั๋นของลูกสาวอย่างมันเขี่ยว จนเจี๊ยบต้องจับเสากระท่อมยึดไว้เป็นหลักไม่ให้ต้องล้มตึงไปตามแรงโถมของบิดา และทำให้โนมเนื้อทั้งส่วนบน ส่วนล่างของเธอระริกสั่นไหว ยั่วตัวยั่วใจตาชาติ ให้ใช้ปากไล่ฟอนฟัดบีบเคล้นอกอวบใหญ่ที่เด้งหยุ่น ดึ๋งดั๋ง ๆ โคกใหญ่ขนาดฝามือปิดไม่มิด และเนื้อก้นที่งอนงามอยู่ในร่มผ้าที่เปียกชื้นและเนื้อผ้าก็แนบเรือนร่างสุดเย้ายวนชวนให้อยากเสพสมยิ่งนัก
“ตายอดตายอยากมาจากไหนเนี๋ยพ่อ มาถึงก็จะเอาอย่างเดียวเลย” เจี๊ยบร้องปรามบิดาแต่ไม่ขัดขืนจริงจัง
“ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ข้าไม่ได้เย็ดเอ็งมาหลายวันแล้วนะเว้ย ดูสิ ควยข้าแข็งเป็นสากหินเลย” ตาชาติบอกแล้วชี้ให้ดูดุ้นตัวเองที่ลอดออกมาจากผ้าขาวม้าผงกหัวหงึกๆปลายหัวมีน้ำเยิ้มบ่งบอกถึงความหงี่เงี่ยนอย่างเต็มพิกัด
“เอาควยออกมาอวดกลางฟ้ากลางฝนอย่างนี้ เดี๋ยวฟ้าก็ผ่าเอาหรอก...” เจี๊ยบบอกออกมายิ้มๆและค้อนให้
“ช่างมันเถอะ...ถ้ามันจะผ่าจริงๆมันคงผ่าตั้งแต่วันที่ข้าจับเอ็งเย็ดครั้งแรกแล้ว มาให้ข้าเย็ดหน่อย หุ่นเอ็งนี่มันน่าเย็ดจริงๆ แม่เอ็งสมัยสาวๆยังสู้ไม่ได้” ตาชาติบอกแล้วล้วงมือเข้าไปใต้เสื้อและกางเกง ไล่บีบขยำเต้านมและโคกหอย
“ไม่ได้เย็ดคืนเดียวทำท่าเหมือนจะลงแดง นี่ถ้าหนูมีผัวแล้วไม่อยู่ที่นี่ พ่อไม่ขาดใจเลยหรือนี่” เจี๊ยบพูดยิ้มๆปล่อยให้บิดาใช้มือสากหนาจากการจับจอบทำไร่ลูกไล้บีบขนำเนื้อนวลสร้างความหวามหวิวไปทั่วเรือนร่างอวบอิ่ม
“…ทำอย่างกะเอ็งไม่ชอบ..ข้าบีบขย้ำอย่างนี้… เอ็งเงี่ยนแล้วใช่มั้ยหละ…”  ตาชาติพูดงึมงำๆใช้สองมือ เลาะไล้ วนไปทั่วปลีก้น วนรอบๆเนื้อสะโพกของลูกสาวสัมผัสความร้อนระอุแผ่ออกมาจากช่องสังวาสจากง่ามก้น
เจี๊ยบหลับตาพริ้มยืนเกร็งกัดฟันนั่งตัวเกร็งปล่อยให้บิดาวัยกลางคนทำตามอำเภอใจ ตาชาติย่ามใจที่ลูกสาวไม่ขัดขืน แกค่อยๆอ้าปากงับเนื้อเนียนและดูดเบาๆขบจนเป็นรอยฟันเลาะไล้ตามสรีระสุดอวบของลูกสาวคนสวยมาเรื่อยๆตั้งแต่หน้าท้องจนถึงเต้านมเต่งตึงที่อัดอยู่ในเสื้อยืดรัดๆ แกใช้สองมือบีบคลึงจากนอกเสื้อ วนปลายนิ้วบีบคลึงอยู่ที่ยอดอก สลับไปด้านซ้ายบ้างขวาบ้าง ไล้ไปที่เนื้อเต้าบ้าง มันยวบไหวหยุ่นตัวไปตามแรงมือของตาชาติเป็นที่ยั่วตามันยิ่งนัก
“...ซี้ด..นมเอ็งนี่เเข็งเป็นไตเลย...ซู้ดดด...เเข็งสู้มือตลอดเลยนะ บีบทีไรมันมือทุกที...” ตาชาติกัดฟันกรอดๆด้วยความหื่นขึ้นสมองพลางบีบขยำนมคู่ใหญ่ๆของลูกสาวอย่างมันมือ
ถึงแม้จะเป็นสัมผัสนอกเนื้อผ้า แต่ก็ทำให้รู้สึกวาบหวิวอยู่ไม่น้อย ลมหายใจของเจี๊ยบเริ่มขัดๆ ถี่ๆ ใบหน้าที่เริ่มออกสีชมพูๆซ่านๆ ทำให้ตาชาติรู้สึกพอใจที่สามารถเล้าโลมให้ลูกสาวมีอารมณ์สมยอมได้ ไม่ใช่บังคับขืนใจ
“…หึ…หึ.. ชอบให้ข้าบีบนมแรงๆอย่างนี้ใช่มั๊ย….ถึงหน้าแดงแบบนี้..หุๆๆ..…”  ตาชาติเอ่ยเสียงหอบๆ
“…นมใหญ่ๆแบบนี้เวลาข้าเย็ดร่องนมเอ็ง มันฉิบหาย ขอบอก...ฮื่อๆๆ…” ตาชาติพึมพำๆลมหายใจดังฟืดฟาดๆจมูกบานเผยิบผยาบ แกบีบขยำเต้านมนอกเสื้ออย่างเมามันทำเอาเจี๊ยบหลับตาผวา
“พะ..พ่อจ๋า..อย่าเพิ่งเลยนะ...ไว้กลางคืนแม่หลับก่อนเถอะ...นะ...หนูกลัวใครจะมาเห็น...” เจี๊ยบเอ่ยห้ามบิดาเมื่อมือหนาของตาชาติกำลังล้วงไปจับโคกหีใหญ่ๆที่ฉ่ำแฉะ
“ใครจะมาเห็นวะ ฝนตกยังกะฟ้ารั่ว ส่วนไอ้ไวไฟมันคงไม่บ้าเดินลุยฝนมาแถวๆนี้หรอก ป่านนี้นอนกระดิกตีนฟังเพลงรอเอ็งเอาข้าวไปส่ง แล้วถ้าข้ารอย่องไปเย็ดเอ็งตอนกลางคืนเดี๋ยวแม่เอ็งจะรู้เข้า เวลาเอ็งกะข้าเย็ดกันทีบ้านสะเทือน แล้วเอ็งก็แหกปากลั่นไม่มีเก็บเสียง ถ้ารอกลางคืนข้าคงอดเย็ดเอ็งอีกแน่ๆ”
 ตาชาติไม่ยอมตามข้อเสนอของลูกสาว เพราะว่าเก็บความเงี่ยนไว้หลายคืนเนื่องจากเจี๊ยบเพิ่งเป็นประจำเดือนมาหมาดๆ แม้ว่าจะแอบลงมาจับเย็ดที่ข้างโอ่งน้ำเมื่อตอนกลางคืน นางจันทร์ดันลงมาถ่ายหนักขัดจังหวะเสียอีก แกจึงอดเย็ดไปอย่างน่าเจ็บใจ
“เย็ดหนูไม่ได้ พ่อก็เย็ดแม่ไปก่อนสิ...แม่แกยอมให้พ่อเย็ดอยู่แล้ว ไว้มีโอกาสค่อยเย็ดกันนะ...”
“ไม่เอาเว้ย...ข้าเงี่ยนเต็มที่แล้ว ยังไงๆต้องเย็ดเอ็งให้ได้” ตาชาติสรุปอย่างหน้ามืดตามัว “หีของแม่เอ็ง ข้าจะเย็ดเมื่อไหร่ก็ได้ แต่หีเอ็งมันหาโอกาสเย็ดยาก ยังไงๆข้าต้องเย็ดเอ็งให้ได้ ชอบแต่งตัวยั่วข้าดีนัก จับได้ข้าต้องเย็ดให้สาสมใจเลย”
“อย่าเลยนะ..อื้อๆๆ อย่าดูดคอหนูซิ..เดี๋ยวเป็นรอย แม่จะสงสัย...อี้...บะ...เบา...บีบเบาๆ...อื้อๆๆ”
เจี๊ยบเองก็พยายามร้องห้ามปัดไม้ปัดมือตาชาติไปตามเรื่อง แต่ก็แค่ยั่วตาชาติเพื่อให้แกกระหายตามเล่ห์มารยาหญิง ลองแกตามมาขนาดนี้ ได้ล้วงได้ฟัดขนาดนี้ เงี่ยนจนควยโด่ดุ้นแข็งจนใหญ่เท่าแขนขนาดนี้ เรื่องจะให้แกล้มเลิกความตั้งใจไม่ให้แกเย็ดไม่มีทาง และตอนนี้เจี๊ยบเองก็กำลังมีอารมณ์หงี่ร่านไม่ต่างกัน
“น่า....เอ็งอยู่เฉยๆ..เดี๋ยวข้าทำเอง...” ตาชาติเอ่ยปากเสียงแหบพล่า สองมือล้วงควักบีบขยำคลึงเคล้นไม่หยุด
“อู๊วว์..พ่อ...อ๊า...อย่าทำอย่างนี้...”
“อย่าเสียงดังน่า....เฉยๆไว้...อื่อๆๆ”
“พะ..พอแล้ว...เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า...อื้อๆๆๆ”
“ใครจะมาเห็นวะ...เอ็งอย่าตอแหลแกล้งกลัวไปหน่อยเลย..อยากให้ข้าเย็ดจนตัวสั่น..ดูซิ...หีแฉะเชียว...”
“อย่าล้วงอย่างนั้น...อี้ย์...อย่าแหย่หีหนู....อู๊ยๆๆ โอย..ซี้ด....”
ตาชาติเองก็รู้ว่าลูกสาวตนเองก็เงี่ยนไม่แพ้กัน เพราะมือปัดๆปากบอกอย่าๆ แต่ภาษากายกลับตอบสนองการกระตุ้นของแก รูหีฟิตๆของเจี๊ยบขับน้ำร้อนระอุออกมาเลอะนิ้วมือของแก ทำเอาแกย่ามใจรุกรานไม่หยุดและไม่กังวลว่าใครจะมาเห็น แม้ว่าถัดไปท้ายไร่จะมีเพิงเจ้าไวไฟอยู่แต่ฝนตกหนักอย่างนี้มันคงไม่เดินฝ่าฝนผ่านมาแน่ๆ นางจันทร์เมียแกก็กำลังเลือกเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด เสร็จก็คงหุงข้าทำกับข้าวไว้รอท่า  ยิ่งเจี๊ยบอ่อนปวกเปียกๆในอ้อมแขนเหี่ยวๆของแก ทำให้แกล้วงไปใต้เสื้อลอดยกทรงบีบหัวนมที่แข็งเป็นไต เจี๊ยบพอโดนมือสากๆด้านๆของบิดาคลึงนมล้วงรูสังวาส ไฟสวาทก็ลุกโชนทันทีเช่นกัน มือก็โอบไปด้านหลังจับดุ้นควยของบิดาที่แข็งยังกะสากหินลูบไปมาในผ้าขาวม้าที่ใส่อยู่ ทั้งสองต่างประโลมเพลงกามกันอย่างไม่ยอมเพลี่ยงพล้ำแก่กัน
ตาชาติเล้าโลมจนเจี๊ยบเครื่องติด แกก็ค่อยๆจับลูกสาวถอดเสื้อยืดตัวรัดติ้วออกทางศีรษะ เจี๊ยบยกแขนขึ้นให้ตาชาติถอดออกอย่างง่ายดาย เต้านมขนาดใหญ่คัพ C ขาวอล่องฉ่องทิ้งตัวอวดสายตาเพราะว่ายกทรงสีชมพูตัวจิ๋วมันถูกล่นขึ้นไปเหนือราวนมแต่แรกแล้ว ตาชาติเลียปากแผล่บๆเมื่อเห็นหัวนมสีชมพูชูชันล่อปากและลิ้นอยู่ปลายยอดเต้า ตาชาติอดใจไม่ไหวเอื้อมมือหนาๆเข้าไปจับบีบเบาๆและยื่นหน้าอ้าปากอมปลายยอดดูดดุนราวเด็กกำลังดูดนมมารดาไม่ปาน
“อื้อ..อ.อ....ซี้ด.ด.ด์......” เจี๊ยบหลับตาพริ้มสูดปากคราง เพราะเสียวปลายยอดลามไปทั่วทุกอณูของร่างกายร่างกาย
“ง่ำๆๆ...จ๊วบๆๆๆ” ตาชาติทั้งบีบทั้งดูดราวคนกระหาย กัดเนื้อเต้าขาวๆจนช้ำเป็นรอยๆแดงๆ
“บะ..เบา..พ่อ...อย่ากัดแรง..มันเจ็บนะ..อี้ย์ๆๆๆ กัดอีกแล้ว...จะ..เจ็บ...ถ้ากัดอีกจะไม่ให้ดูดแล้วนะ...” เจี๊ยบร้องห้ามบิดาเสียงกระเส่า แต่กลับแอ่นอกให้ดูดให้บีบอย่างไม่หลบเลี่ยง ยิ่งแรงมันยิ่งเสียว
ตาชาติดูดดุนจนหนำใจแกก็ประคองลูกสาวไปนั่งบนแคร่ไม้ไผ่ แต่ลูกสาวคนสวยกลับทอดกายนอนลงไป มือเล็กเอื้อมไปปลดยางยืดมัดรวบเส้นผมบนศีรษะออกแล้วสะบัดผมยาวสลวยให้สยายเต็มกลางหลัง ทำให้เขาอยากเอามือไปลูบเล่นเบาๆเสียเหลือเกิน เธอใช้ปลายเท้าถูไถไต่ขึ้นมาบนลำขาเหี่ยวๆไล่ขึ้นมาเรื่อยๆและมุดเข้าไปใต้ผ้าขาวม้าจนไปหยุดอยู่บริเวณซอกขาด้านใน หยอกเล่นกับท่อนควยโด่ของแกที่หมกตัวอยู่กับกลุ่มขนสีดกดำหยาบกระด้าง นิ้วเท้าขยุกขยิกกับดุ้นควยของแกจนอารมณ์ตาชาติร้อนระอุขึ้นมาอย่างรุนแรงในกิริยาที่ยั่วยวนนั้น สุดจะทานทนต่อไปได้ไหว ตาชาติเอื้อมมือหนาสั่นเทาไปปลดกางเกงขาสั้นออกพร้อมๆกางเกงในสีชมพูดตัวจิ๋วออกทางปลายเท้าอย่างไม่ยากเย็น ไม่เป็นปัญหาใดๆ
 และในตอนนี้ร่างลูกสาวคนสวยของแกไม่หลงเหลืออาภรณ์ใดๆติดกายสักชิ้น อวดเรือนกายอวบอิ่มขาวผ่องอย่างยั่วยวนสายตา เรือนร่างเปลือยเปล่า เต้านมใหญ่ๆขาวอร้าอร่ามตา ร่างเปลือยขาวผ่องไปทั้งร่างไร้ไฝฝ้าขี้แมลงวันมาเกะกะสายตา  เรียวขางามถ่างอ้าออกอวดโคกใหญ่ๆฝ่ามือแกปิดไม่มิด มีขนดำเรียบมันขลับประดับอย่างสวยงาม ใบหน้าหวานเชิด หลับตาพริ้ม แสดงทีท่าเชื้อเชิญเข้าไปตักตวงชมเชยความสาวให้เต็มคราบ
แม้จะถูกลอกคราบจนล่อนจ้อน แต่เจี๊ยบเองก็ไม่ยอมเสียเปรียบบิดา เมื่อถูกปอกเปลือยบางๆจนกายเปล่าเปลือย มือบางจึงเอื้อมไปปลดผ้าขาวม้าที่ตาชาตินุ่งห่มอยู่ออกบ้าง ทั้งเนื้อทั้งตัวของตาชาติก็มีเพียงผ้าขาวม้าผืนเดียวปกปิดท่อนล่างของร่างกาย เมื่อปลดออกก็เปล่าเปลือยอวดร่างกายอ้วนลงพุงเนื้อหนังเหี่ยวย่นตกกระตามประสาคนอายุครึ่งร้อย แต่ว่าดุ้นควยของแกกลับผงกหัวหยักอวดความใหญ่โตดำมะเมื่อง ปลายหัวถอกคล้ำเป็นสีม่วงแก่เพราะใช้งานมายาวนาน แต่ดูดุดันแข็งแกร่งผงกหัวถอกหงึกๆไปมาดูน่าเกรงขาม
“อุ๊ย! ...พ่อ...ทำไมวันนี้ดูมันใหญ่...กว่าทุกวันเลย...” เจี๊ยบใส่จริตน้อยๆเมื่อมือบางไปสัมผัส
“ทำเป็นพูดไปนังเจี๊ยบ มันก็อันเท่าเดิมแหล่ะ” ตาชาติพูดอย่างรู้ทัน
“ขอหนูใช้ปากได้ไหม?” เจี๊ยบเอ่ยขึ้น
ตาชาติยิ้มอย่างพอใจ “เอ...ทำเป็นบอกว่าข้าอย่าทำๆ แต่พอเจอควยข้าขออมเลย เงี่ยนละซิ”
“ไม่เงี่ยนจะมาให้พ่อเย็ดหรอ?” เจี๊ยบพูดมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ถ้าไม่อยากเย็ดฉัน ทีหลังอย่าตามมานะ”
“เออๆ ข้าปากไม่ดี ขอโทษละกัน อยากอมก็อมไป ถึงจะแตกคาปากเอ็ง ข้าก็ยังมีก๊อกสองเย็ดหีเอ็งได้อีก”
“ถ้าพ่อเย็ดหนูไม่ได้ หนูก็จะมีผัวใหม่ทันที  หนูไม่อยู่ให้รูตันหรอก”  เจี๊ยบเอ่ยบอกน้ำเสียงจริงจัง
“ข้ายังมีแรงเย็ดเอ็งอีกหลายปี ไม่ต้องห่วงน่า...ฮ่าๆๆ” ตาชาติหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “แต่ถ้าข้าเย็ดเอ็งไม่ไหวจริงๆ  ข้าก็คงต้องยอมให้เอ็งมีผัวใหม่  แต่ตอนนี้อมๆควยให้ข้าสักที ข้ารอนานแล้วนะ...”
เจี๊ยบยื่นมือไปจับลำโคนควยของตาชาติเบาๆรูดไปรูดมาเป็นการอุ่นเครื่อง ตาชาติหลับตาพริ้มเพราะความเสียวสบายจากมือนุ่มของลูกสาว แกใจจดจ่อรอให้ลำควยร้อนผ่าวล่วงเข้าสู่ปากอุ่นๆ เจี๊ยบจับดุ้นควยของบิดาแล้วค่อยๆโน้มตัวก้มหน้าเอาปากไปประกบที่หัวบานใหญ่ ริมฝีปากอวบอิ่มค่อยๆเผยออ้าออก ขอบฟันของเธอครูดเขี่ยไปโดนเนื้อเต่งๆของหัวควยแบบเจตนา ทำเอาตาชาติห่อปากส่งเสียงครางออกมาเบาๆ
“...ซี้ดด..ด.. ระวังฟันหน่อยสิวะ...เดี๋ยวถลอกขึ้นมามันหายยากนาเว้ย...ซึ้ด.ด.ด.ด.....อูยย..ย..”
ตาชาติเอ่ยออกมาจากลำคอแต่เสียวมากกว่าจะเจ็บจริงๆจังๆ สาวน้อยเหลือบมองหน้าบิดาค้อนๆ ก่อนจะอ้าปากอมหัวควยบานๆดำๆเหมือนหัวปลาช่อนเข้าปากของเธอไปจนหมดหัวเงี่ยง  มือเล็กๆของเธอที่กำอยู่ตรงโคนลำก็เริ่มกระถอกลำควยของบิดาขึ้นลงๆ ปากสวยๆของเธออมลึกจนถึงเงี่ยงหัวควยแล้วเธอก็เม้มริมฝีปากดูดรูดมาที่ปลายควย ทำเอาตาชาติขาสั่นหลับตาหน้าง้ำหน้าแหงนหัวสั่นหัวครอนกัดฟันร้องครางเพราะความเสียวสบายตัว เจี๊ยบอ้าอมรูดเข้าออกช้าๆจนกระทั่งเร็วขึ้นๆเสียงดูดดุ้นด้วยปากสวยดังเป็นจังหวะกระชั้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ ความเสียวแล่นพล่านไปทั้งร่างตาชาติจนต้องยืนเกร็งเสียตะคริวแทบจะกินหน้าท้อง
จ๊วบๆๆแจ๊บๆๆ...บ๊วบๆๆๆ
เจี๊ยบดูดอย่างเร็วและแรงจนท่อนควยตาชาติชุ่มฉ่าไปด้วยน้ำลายและน้ำเมือกเหนียวๆไหลจากท่อปลายผสมปนเปกันจนแยกไม่ออก
“...อูยย..ย.. ซี้ดด..ด.. อีเจี๊ยบเอ้ย...ปากเอ็งนี่...อูยย..ย...ดูดดีฉิบหาย...ข้าเสียวจริงๆ...อู๊ยๆๆ.....”
ตาชาติกัดฟันพูดแล้วนั่งลงบนแคร่ข้างๆร่างเปลือยเปล่าของเจี๊ยบ มือหนาสากเอมไปตะปบขยำบีบคลึงเต้านมที่คล้อยเป็นพวงอวบของเธอ ตาชาติใช้มือคลึงตั้งแต่ฐานเต้าบีบไล้ปลิ้นมาถึงยอดเต้าวนไปวนมา เรียกว่าสัมผัสทุกตารางนิ้วของเต้าอวบนิ่มมือ แกทั้งบีบทั้งดึงสลับเต้าซ้ายทีเต้าขวาทีจนพวงนมของเจี๊ยบปลิ้นไปมาตามแรงมือ เจี๊ยบเองก็กำลังมันปากพอถูกตาชาติใช้มือสากบีบคลึงเจ้าอวบที่เป็นเนื้ออ่อนๆ ทำเอาสยิวไปทุกรูขุมขน เร่งห่อปากดูดควยให้บิดาแท้ๆให้ได้เสียวอย่างอย่างเต็มคราบ
“...ซี้ดด.. อีเจี๊ยบเอ้ย...เอ็งดูดเก่งจริงๆ...แถมนมของเอ็งก็เด้งสู้มือ...ดีกว่าแม่ของเอ็ง...อะ..อีก...ซี้ด.ด.ด....”
จ๊วบๆ...จ๊วบๆ...
 เสียงดูดควยจากปากของลูกสาวในไส้ดังเป็นจังหวะ พร้อมๆกับศีรษะของเธอที่ขยับโยกไหวขึ้นๆลงๆอยู่ตรงหน้าขา  ถึงแม้ว่าเส้นผมสลวยของเจี๊ยบจะสยายคลุมหน้าขาของตาชาติ จนปิดบังภาพการดูดควยที่ชวนสยิวไว้ แต่จากเสียงที่ดังจ๊วบๆ..จ๊วบๆ..สม่ำเสมอนั้น ก็สามารถเดาภาพได้ไม่ยากว่าปากสวยๆของเจี๊ยบ ยังคงทำงานดูดควยตาชาติอย่างต่อเนื่องตาชาติเอามือหนาเอื้อมไปแหวกเส้นผมสยายออกเพราะอยากเห็นภาพลูกสาวดูดควยให้เต็มตา แต่ดูได้ไม่นานก็ต้องละมือเอามายันตัวไว้ข้างๆร่างอ้วนลงพุงเพราะความเสียวแล่นรุกเร้าใจจะขาดจนแทบจะหงายท้องลงนอนบนแคร่
บ๊วบๆๆ
ริมฝีปากได้รูปสวยของเจี๊ยบขยับต่ำตามลำควยลงมาเรื่อยๆ ทำให้ลำโคนทั้งลำเกือบเข้าไปในปากของเธอจนแทบหมดความยาว เสียงส่วนปลายกระทบลิ้นไก่ ตาชาติกัดกรามกรอดๆ เกร็งนิ้วมือนิ้วเท้าหงิกงอ
“......ซึ้ด.ด.ด.ด....อีเจี๊ยบเอ้ย...อมหมดดุ้นควยกูเลย...ซีด.ด.ด.ด...เสียวชิป...หาย...กูจะแตกแล้ว...ว์...ซี้ด.ด.ด.ด์”
เจี๊ยบเมื่อได้ยินเสียงบิดาครวญครางราวจะขาดใจก็เร่งใช้ปากระรัว เธอใช้มือปัดเส้นผมสลวยไปทัดไว้ที่หูข้างหนึ่งทำให้ตาชาติได้เห็นใบหน้าสวยหวานใช้เรียวปากอวบอิ่มอ้าอมท่อนควยเข้าๆออกๆในปาก ซึ่งเยิ้มมันแผล่บไปด้วยคราบน้ำลาย และเธอชำเรืองหางตาปรือสบตามองตาชาติอย่างยั่วยวน ท่อนควยที่เข้าไปในโพลงปากแทงกระพุงแก้มจนโป่งพองซ้ายทีขวาที ทำเอาตาชาติทั้งเสียวและรู้สึกอิ่มเอมหัวใจ
“...อู๊ยๆๆ..อีเจี๊ยบ..เอ็งทำหน้ายังดาราหนังโป๊ญี่ปุ่นเลย...กูเสียวฉิบหาย..อู๊ยๆๆ...ซี้ดดด..ด.ดด...”
ตาชาติเสียวจี๊ดจนขึ้นสมอง แกเกิดความลืมตัวจับศีรษะลูกสาวกดขึ้นๆลงๆและกระดกก้นเสยลำควยใหญ่ๆใส่ปากลูกสาวอย่างแรงหลายครั้ง ทำเอาเจี๊ยบตกใจและหายใจไม่ออกเพราะปลายควยใหญ่ๆมันมากระทุ้งที่คอหอยเธอเต็มๆ สาวสวยรีบละปากดันมือบางที่หน้าขาตาชาติถอนปากออกจากลำควยของตาชาติมานั่งหอบและมองหน้าตาชาติอย่างไม่พอใจขณะที่น้ำลายปนน้ำเงี่ยนเหนียวๆเปรอะเยิ้มเป็นฟองขาวเต็มท่อนลำ
“แฮ่กๆๆ..พ่อจะฆ่าหนูหรือไง ตะบี้ตะบันกระเด้าปากหนูเข้ามาได้...หายใจแทบไม่ทัน”
พอควยหลุดปากตั้งสติได้ เจี๊ยบก็เอ่ยต่อว่าอย่างไม่พอใจ
ตาชาติโอบร่างเปลือยลูกสาวยิ้มแหะๆ “ขอโทษนะ...ข้ามันไปหน่อย..เอ็งดูดซะข้าจะแตก...จนข้าทนไม่ไหว...”
“ถ้าพ่อทำพิเรนอย่างนี้อีก หนูจะไม่ดูดควยให้แล้ว” เจี๊ยบสะบัดเสียงตอบ
“บอกแล้วไง..ว่าข้าขอโทษ...มาดูดต่อเถอะ..นะๆๆๆ” ตาชาติอ้อนลูกสาว จับควยใหญ่ๆเขย่าปลายหงึกๆล่อ
เจี๊ยบมองค้อนบิดาหนึ่งวงก่อนจะหลุ่บสายตาต่ำมองท่อนควยดำๆของตาชาติ
“อย่าทำอย่างตะกี้อีกนะ นอกจากจะไม่อมแล้ว หนูจะไม่ให้เย็ดอีกด้วย”
“เออๆข้าสัญญา...” ตาชาติยิ้มแหย๋ๆรับคำคาดโทษนั้นจากลูกสาว

ตาชาติเม้มปากเบิกตามองดูลูกสาวก้มหน้าไปยังท่อนควยของตนอีกครั้ง เธอแลบลิ้นสีชมพูอ่อนตวัดรอบหัวควยบานๆสีดำก่อนที่จะอ้าปากอมรูดลำควยทั้งลำเข้ามาเต็มปากเธออีกครั้ง เปลือกตาสาวน้อยเริ่มปิดลงหลับพริ้มพร้อมๆกับจังหวะผงกหัวรูดริมฝีปากแนบสนิทไปกับลำเนื้อดำๆนั้น เธอสาวรูดเรียวปาก เร็วขึ้น..เร็วขึ้น.. ทุกจังหวะที่รูดขึ้นหญิงสาวตั้งใจดูดลำควยของตาชาติจนแก้มของเธอตอบยวบยุบไปหมุบๆ ยิ่งทำให้ริมฝีปากเธอสัมผัสรัดแน่นรูดลำควยแข็งๆอย่างแนบแน่น เจี๊ยบใช้ลีลาดึงปากไล่ตั้งแต่โคนลำขึ้นมาจนเกือบสุดปลายควย ริมฝีปากอิ่มๆที่รัดสุดๆของเธอมันจึงครูดเข้ากับเงี่ยงควยบานๆอย่างจัง ตาชาติสะดุ้งเฮือกๆเสียวเพิ่มอย่างจับจิตเมื่อมือบางๆลูบไล้พวงไข่เสริม
“ซึ้ด.ด.ด.ด....อู๊ย.ย.ย...เด็ดสุดๆ อีเจี๊ยบ...มึงใช้ปากซะกู...อ้าก.ก.ก.ก.ก....ซี้ด.ด.ด.ด...”
เจี๊ยบละปากจากลำควยและเอียงใบหน้าหวานงัดไล่ตามลำโคน นิ้วมือดึงหนังหุ้มปลายกระตุกเบาๆและไล่ลิ้นอ่อนนุ่มลงมาถึงพวงไข่เหี่ยวๆดำๆคล้ายลูกเงาะดำๆ เธอเลียพวงไข่ที่มีขนกระกหร่อมกระแหร่มอย่างไม่รังเกียจและอ้าปากอมไข่ทีละข้างดูดเบาๆ ทำเอาตาชาติยกขาขึ้นอย่างลืมตัวเพราะเสียววูบมาถึงหน้าท้อง แกกัดฟันกรอดหลับตาสะบัดหน้าเร่าๆเรี่ยวแรงหายสิ้นหงายท้องทิ้งตัวลงนอนบนแคร่ ส่วนเจี๊ยบเองก็ดูดไข่ตาชาติอย่างสนุกปาก และเหมือนได้ใจเธอรีบบีบมือที่กำอยู่ที่ลำโคนชักลงจนหนังควยมันตึงสุดๆ ยิ่งเธอบีบก็ยิ่งทำให้หัวควยมันบานโล่ เงี่ยงที่บานอยู่แล้วจึงยิ่งขยายบานขึ้นไปอีกด้วยเลือดที่เข้ามาคั่งไว้ภายใน เจี๊ยบละจากพวงไข่รีบเร่งจังหวะผงกหัวรูดเรียวปากดูดๆของเธอทั้งสาวยาวและเร็วขึ้นตลอดลำควยของบิดา เธอพยายามเน้นให้ริมฝีปากครูดที่เงี่ยงควยทุกครั้ง ด้วยเห็นว่าจะเร่งอารมณ์ของบิดาได้มากที่สุด
บ๊วบๆ...บ๊วบๆๆ...ๆๆ..!!..บ๊วบๆๆๆ
เสียงดูดลำควยอย่างเอาเป็นเอาตายดังขึ้นๆและดังขึ้นไม่หยุด

“..ฮื่อๆๆ...อ่า..า....อ่ะ...อุก...อุ่ก....ฮื่อๆๆๆ....”  เสียงสูดลมเข้าทางปากของเจี๊ยบดังเข้ากับจังหวะที่เธอโยกหัวได้อย่างคล้องจองเหมาะเจาะ ตาชาติดิ้นพล่านๆด้วยแรงเสียวจากปากของลูกสาว บางครั้งแกอดไม่ไหวเด้งก้นส่งลำควยกระแทกสวนเข้าปากแต่ก็พยายามไม่คล่อมจังหวะเพราะเกรงจะหักหาญจนลูกสาวโกรธไม่ทำให้
“อู๊ยๆๆ..กู...น้ำจะแตกแล้ว...อีเจียบ...อีเจียบ...อู๊ยๆๆๆ...ซู้ดด..ด...เด็ดจริงๆ...อีเจี๊ยบ...โอ๊ยย์...อ้าก.ก.ก.ก...ก์..”
เสียงของตาชาติครวญครางแข่งกับเสียงดูดควยดัง...บ๊วบๆ...บ๊วบๆๆ...ที่ดังมาจากหน้าขาซ฿งมีศีรษะของลูกสาวหผงกขึ้นๆลงๆอยู่  ตาชาติตูดขมิบหนุบๆอยู่เรื่อยๆเพื่อบรรเทาความเสียวที่ได้รับจนน้ำจะแตกอยู่อีกไม่กี่อึดใจ เจี๊ยบก้มหน้าไล่ดูดควยตาชาติจนก้นขาวๆงอนงามเลื่อนมาอยู่ไม่ห่างใบหน้าของตาชาติ ทำเอาแกละมือจากที่ขยำกำเต้าเต่งจนช้ำเป็นรอยมือ เลื่อนต่ำลงผ่านร่องก้นไปจับหมับที่โคกหีโหนกนูนพลางสอดนิ้วหายเข้าไปในร่องหลืบของเธอทันที
“อะ..อื้อ...” เสียงครางในลำคอของเจี๊ยบดังขึ้นพร้อมๆกับอาการสะดุ้งเฮือก และชำเรืองหางมามองตาชาติทั้งๆที่ดุ้นควยยังคาอยู่ในปากครึ่งลำ “อื้อๆๆๆ” เสียงครางดังพร้อมหลับตาด้วยความเสียวเมื่อตาชาติชักนิ้วเข้าๆออกในรูหีฉ่ำแฉะของเธอ แต่ปากสวยยังไม่ยอมคายดุ้นออกมา
“...หยุดทำไมหล่ะ..ดูดควยข้าต่อสิวะ...เอ็งดูดข้าแหย่..มันจะได้สมน้ำสมเนื้อกัน...”
ตาชาติบอกแล้วขยับนิ้วชี้ออกมาและส่งนิ้วกลางอวบอ้วนเข้าไปแทน และขยับรูดนิ้วกลางเข้าๆออกๆในรูหีลื่นๆของลูกสาวเป็นจังหวะ ไม่นานนักเสียงเริ่มดัง...แจ๊ะๆ...แจ๊ะๆ... ออกมาชัดเจนเพราะน้ำหล่อลื่นไหลพลั่กๆออกมาอุ่นนิ้ว สะโพกของเจี๊ยบเริ่มกระตุกบิดไปมาบ้างด้วยความเสียวสยิวที่ได้รับ
“ข้ากำลังเสียวได้ที เอ็งหยุดอย่างนี้...เดี๋ยวข้าจะจับเอ็งเย็ดดีกว่า...” ตาชาติเสนอเมื่อเห็นลุกสาวหยุดไปนาน
บ๊วบ!!!
“...อ๊า...าา...” เสียงของเจียบอ้าปากสูดหายใจลึกหลังจากดึงปากออกจากปลายควยของบิดา
“...ไม่เอาหรอก...หนูอยากกินน้ำเงี่ยนของพ่อ...เดี๋ยวหนูจะเร่งนะ...” พูดเสร็จเธอก็ก้มหน้าก้มตาดูดควยยาวๆดำๆของตาชาติต่ออย่างเอาเป็นเอาตาย ยิ่งเร่งเร็วและเพิ่มแรงดูดมากขึ้นไปอีก
... บ๊ววบ!!...บ๊ววบบ!!...บ๊วบๆๆๆๆ...บ๊วบๆๆ...
พอเจี๊ยบเร่งใช้ปากทำเอาตาชาติหน้าตาเหยเกด้วยความเสียว นิ้วมือที่สอดรูดอยู่ในโพรงหีลูกสาวก็ยิ่งเร่งซอยแรง ขึ้นๆไม่ยอมแพ้ให้แก่กัน เจี๊ยบเองต้องหลับตาปี๋เพราะเธอเองก็เสียวไปกับการกระทำของบิดาอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความต้องการให้ตาชาติน้ำแตกคาปากตนเองให้ได้ เธอจึงกลั้นใจเร่งจังหวะดูดควยของตาชาติให้ถึงเส้นชัยโดยเร็วที่สุด ก่อนที่เธอจะน้ำแตกคานิ้วของตาชาติ ไม่อย่างนั้นจะถูกตาชาติล้อเอาได้ ว่าไม่มีน้ำอดน้ำทน
สายฝนนอกกระท่อมเก็บปุ๋ยยังคงโหมกระหน่ำหนัก เสียงตกกระทบหลังคาแข่งกับเสียงร้องอื้ออึงของสองพ่อลูกที่กำลังโรมรันกันอย่างถึงพริกถึงขิง ผู้เป็นบิดากำลังตะกายสวรรค์ด้วยอุ้งปากสวยๆของลูกสาว ลำควยดำๆของตาชาติถูกอาบจนมันลื่นไปด้วยคราบน้ำลายและน้ำหล่อลื่นจนเป็นฟองขาวๆ .
บ๊วบๆๆ..บ๊วบๆๆ... บ๊วบๆๆ
ริมฝีปากของเจี๊ยบยังคงทำหน้าที่ห่อรูดตั้งแต่ปลายหัวบานยันสุดโคนสลับขึ้นลงๆ ท่านอนตะแคงไปบนแคร่ไม้ไผ่ยาวของเธอ ดูจะเป็นเจตนาช่วยอำนวยให้บิดาแท้ๆสามารถใช้นิ้วมือทะลวงร่องรูของเธอได้ถนัด ตาชาติขยับเอียงกายใช้มือหนาๆข้างหนึ่งจับแก้มก้นขาวๆเนียนกว่าหนังใบหน้ากร้านแดดเข้ามาใกล้ แล้วใช้นิ้วกลางแหย่รูหีเข้าๆออกๆไม่หยุด จนเสียงดังแจ๊ะๆๆ แข่งเสียงดูดควยด้วยปากลูกสาวที่ดังบ๊วบๆ ตาชาติเสียวจนหูอื้อตาลาย แต่แกยังรูดกระหน่ำนิ้วกลางเข้าออกรูสวาทที่ขับน้ำหล่อลื่นเป็นเมือกเหนียวออกมาไหลเปรอะเต็มมือ ดูจากการตอบสนองทางร่างกายของลูกสาว ตาชาติรู้ได้ว่าว่าเธอเองก็มีอารมณ์หฤหรรษ์ไปกับมันอยู่ไม่น้อย แต่ในที่สุดความพยายามของเด็กสาวก็สัมฤทธิ์ผลก่อน
“กูทนไม่ไหวแล้ว.ว.ว.ว..ว์....อ้าก.ก.ก.ก.ก...น้ำแตกแล้วเว้ย...แตก...ตะ...แตกแล้ว..ว.ว..ว์...” ตาชาติละนิ้วออกมานอนแผดเสียงร้องราววัวถูกเชือด พร้อมๆจังหวะขับน้ำเชื้อกลิ่นคาวจัด ฉีดเข้าไปเข้าในโพรงปากของลูกสาวระลอกแล้วระลอกเล่า “โอ้ย!... ปรึ่ด..ปรึ่ดๆ..!!..โอ๊ยๆๆๆ ...อู๊ย..นะ..น้ำกูแตกแล้ว.ว.ว.ว....โอ๊ยๆๆ....”
เจี๊ยบหลับตาอมดุ้นควยของบิดาไว้แน่น น้ำกานร้อนๆจากปลายท่อของตาชาติพุ่งกระฉุดออกมาอย่างมากมาย เธอดูดกลืนผ่านลำคอเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่บางส่วนกลืนไม่ทันก็ไหลล้นออกมาทางมุมปาก และเห็นเป็นน้ำเหนียวๆขาวใสปริ่มออกมาและไหลย้อยลงคางหยดลงพื้นแคร่ไม้ไผ่เป็นดวงๆ  กระทั่งหยาดหยดสุดท้ายพุ่งกรนะทบลำคอเธอจึงค่อยๆคายท่อนควยของตาชาติออกจากปากอย่างช้าๆละสูดลมหายใจเข้าปอดขณะยกมือปาดคราบใคร่ออก
“แฮ่กๆๆ...ออกมาเยอะจริงๆ..แต่รสชาติเฝื่อนๆ ไม่คาวเหมือนของแฟนเก่าหนูเลย...”
ตาชาตินอนหงายหอบตัวโยน พุ่งกระเพื่อมขึ้นๆลงๆ ผ้าขาวม้าถูกนำมาซับปากสวยและเช็ดร่างกายขาวๆที่ถูกละอองฝนจนเกาะเป็นเม็ดพราว ขณะเช็ดเนื้อตัวเจี๊ยบมองสภาพของตาชาติแล้วขำจนอกกระเพื่อม
ท่อนควยของตาชาติอ่อนปวกเปียกเป็นมะเขือเผา แต่ยังมีน้ำเหนียวๆซึมออกมาจากปลายท่อจนเปรอะใส่พวงไข่และขนดกดำกระหร่อมกระแหร่มเมื่อเจี๊ยบเหลือบไปเห็นมันอยู่ในสภาพนี้แล้วเธอจึงเอานิ้วไปเกลี่ยเล่น นัยน์ตาสีน้ำตาลเหมือนแม่ตอนนี้กำลังฉายรอยยิ้มขำกับสภาพของดุ้นเนื้อตาชาติที่หมดสภาพเพราะปากของเธอ ตาชาติได้แต่ปรือตามองหน้าลูกสาวที่กำลังเล่นกับดุ้นเหี่ยวๆคล้ายมะเขือเผาของตน เพราะความเหนื่อยจึงไม่อาจห้ามปรามใดๆ
“...หมดฤทธิ์แล้วใช่มั๊ย...คริๆ...พ่อนี่..หลังๆไม่เคยเกินยกเล้ย...สงสัยต้องหาผัวมาแทนแล้ว...” เสียงพูดยั่วล้อนั้นคล้ายเยาะเย้ยตาชาติไปในที
“..เอ็งคงอยากให้ไอ้ไวไฟมาเย็ดแทนข้าเต็มแก่ละซี...เออ..ข้ามันแก่แล้ว..ลำหักลำโค่นจะสู้อะไรคนหนุ่มๆได้วะ ลองข้าอายุเท่าไอ้ไวไฟ รับรองว่าเอ็งจะหลงข้าเหมือนแม่เอ็ง...” ตาชาติเอ่ยขึ้นมาคล้ายไม่พอใจ “ข้าเห็นเอ็งชอบระริกระรี้ไปหามัน ให้มันเย็ดบ้างหรือยังหล่ะ แต่ร่านๆรอบจัดอย่างเอ็งนี่ ข้าว่าไอ้ไวไฟคงจะเสร็จเอ็งไปแล้วมั้ง?!”
“พ่อก็พูดดูถูกหนูไปเรื่อย ของไม่ได้อยู่ตามหน้าแข้งนะ จะได้ให้กันง่ายๆ นอกจากพ่อ หนูก็ไม่ได้ให้ใครเย็ดเลย”
“เออๆขอให้จริงเถอะ ตอนนี้ข้ายังมีแรงเย็ดเอ็งอยู่ ถ้าข้าหมดแรงเย็ด เอ็งก็ต้องหาคนอื่นมาเย็ดแทนอยู่ดี” ตาชาติเอ่ยอย่างปลงๆถึงจะหวงลูกสาวแค่ไหน แต่สุดท้ายมันก็ต้องไปให้คนอื่นเย็ดอยู่ดี
เจี๊ยบขยับมากอดบิดา ลูบผมสีเงินกระหร่อมกระแหร่มบนศีรษะอย่างเอาใจ “อย่าห่วงเลยนะพ่อ ถ้าพ่อยังเย็ดหนูไหว หนูสัญญาจะให้พ่อเย็ดไปเรื่อยๆ แต่ถ้าหมดแรงเย็ดเมื่อไหร่ หนูถึงจะมีผัว....คริๆๆ”
เจี๊ยบเอ่ยปากสัญญาเอาใจตาชาติไปอย่างนั้น เพราะรู้ดีว่าบิดาตนเองนั้นอายุเข้ากลางคนไปแล้ว อีกไม่กี่ปีก็หมดสภาพ ตาชาติยิ้มพยักหน้าหงึกๆให้ด้วยความพอใจในคำสัญญาของลูกสาว ถึงตรงนี้แกหายเหนื่อยล้าไปแล้ว กายเปลือยเปล่าของพ่อลูกที่กอดรัดกันไปมาท่ามกลางอากาศหนาวเย็นจากสายฝนเริ่มระอุประทุด้วยไฟสวาทอีกครั้ง ดุ้นเหี่ยวๆของตาชาติเริ่มแข็งปั๋งขึ้นมาหลังจากถูกรีดน้ำเชื้อไปเมื่อครู่ ปลายโด่ๆแข็งๆทิ่มๆแทงๆหน้าท้องของเจี๊ยบจนเธอสะดุ้งเฮือก
“อะ..อุ๊ย...แข็งเร็วจริงๆ ใหญ่น่ากลัวเชียว...” เจี๊ยบพูดอย่างใส่จริต
“แข็งช้า เดี๋ยวเอ็งมีผัวใหม่ ฮ่าๆๆ” ตาชาติเอ่ยบอกอย่างภาคภูมิใจในพลังของตน “ให้มันรู้ซะบ้าง ชาติ ปืนโต กระสุนไม่ได้หมดง่ายๆนะเว้ย อย่างไงข้าก็ต้องไว้ลายเสือเฒ่าละวะ...”
มองออกไปนอกกระท่อมในไร่ข้าวโพดนั้น  ฝนยังตกกระหน่ำไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ  หยาดน้ำฟ้าล่วงไหลเป็นทางยาวจากที่สูงลงจุดต่ำ    พื้นไร่ที่เป็นแอ่งด้านนอกเจ่อนองไปด้วยน้ำ แต่ภายในกระท่อมกลางไร่เพลิงกามของสองพ่อลูกยังคงดำเนินต่อไปอย่างเร่าร้อนและไม่มีวี่แววว่าจะจบลงง่ายๆดั่งสายฝนที่โปรยปราย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

lotto432-1

B2Y-05

6083ea2933d45a756312072109614f97.jpg